ค่ายรถยนต์น้องใหม่อย่าง TESLA นั้น นอกจากจะเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้าและทำการตลาดอย่างจริงจังแล้ว ยังเป็นผู้นำในเรื่องของเทคโนโลยี ‘Autopilot’ หรือระบบขับขี่อัตโนมัตินั่นเองครับ ซึ่งระบบดังกล่าวจะอาศัยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้รอบคัน เพื่อนำมาประมวลผลเป็นทิศทางและความเร็วในการขับเคลื่อน ซึ่งหลักการดังกล่าวนี้ ถือเป็นพื้นฐานของระบบ ‘Autopilot’ นั่นเอง

TESLA MODEL S มีระบบ Autopilot ที่อัจฉริยะกว่านั้นหลายเท่าตัว เพราะนอกจากจะมีเซ็นเซอร์หลายสิบตัวที่ถูกฝังไว้รอบคันรถแล้ว ยังมีเซ็นเซอร์ที่อยู่ภายในห้องโดยสาร คอยตรวจจับสถานะของผู้ขับขี่อยู่ตลอดเวลา

คำถามก็คือว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากว่า TESLA MODEL S ตรวจจับได้ว่า ขณะที่ใช้งานโหมด Autopilot อยู่นั้น คนขับเกิดการหลับในหรือหมดสติระหว่างการเดินทาง...

เมื่อคนขับไม่มีการตอบสนองเป็นระยะเวลาหนึ่ง สิ่งแรกที่ MODEL S จะทำก็คือ ‘การปลุก’ โดยใช้เสียง ‘ปิ๊ปๆ’ และจะดังมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกันนั้น จะมีข้อความขึ้นมาว่า HOLD STEERING WHEEL” ซึ่งเป็นการสั่งให้คนขับจับพวงมาลัยโดยทันที

และถ้าหากว่ายังไม่มีการตอบสนองจากคนขับ ระบบ Autopilot จะเริ่มทำการยกเลิก โดยจะมีข้อความว่า "Autopilot unavailable for the rest of this drive. Hold steering wheel to drive manually" ขณะเดียวกันนั้น ไฟฉุกเฉินจะถูกเปิดขึ้นอัตโนมัติ และความเร็วจะถูกลดลงจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง โดยที่ตัวรถจะยังรักษาเส้นทางเดิมไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนเลนเพื่อเข้าไปจอดข้างทาง จนทำให้เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะการที่ตัวรถจอดหยุดนิ่งอยู่บนถนนนั้น ถือเป็นอันตราย ทั้งต่อผู้ขับขี่ TESLA เอง รวมไปถึงผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม การที่ MODEL S ค่อยๆ ลดความเร็วลง และเปิดไฟฉุกเฉินตลอดทางนั้น ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ที่ขับตามมา ชะลอความเร็วเพื่อรักษาระยะห่าง จึงถือเป็นการลดความเสี่ยงไปได้ระดับหนึ่ง ลองไปชมวิดีโอกันครับ

 

วิดีโอ - Tesla Autopilot winding country road sleeping

 

Get Connected | ติดต่อกับพวกเราได้ที่...