เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้นทุกขณะ สำหรับค่ายรถยนต์ดาวสามแฉกสัญชาติเยอรมันอย่าง Mercedes-Benz และกลยุทธ์ที่ผมกำลังพูดถึงนั้น ก็คือการแตกแขนงผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างฐานลูกค้าหน้าใหม่นั่นเองครับ และการเปิดตัวของ Mercedes-Benz X-Class ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับการทำตลาดรูปแบบใหม่ของเจ้าพ่อรถหรูค่ายนี้
Mercedes-Benz X-Class คือรถกระบะพรีเมี่ยม ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบฟูล-ไทม์ ถือเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะชินตาเท่าไหร่สำหรับ Mercedes-Benz ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะของค่ายรถยนต์ที่โดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีและความหรูหรา แต่กลับหันหัวเรือมาพัฒนาและสร้างรถกระบะสุดบึกบึนน่าเกรงขาม
นอกจากดีไซน์จะมีความล้ำแบบสุดๆ แล้ว Mercedes-Benz X-Class คันนี้ก็ยังมีอะไรที่น่าสนใจอยู่อีกหลายประการ ลองไปอ่านกันต่อดีกว่าครับ
1. X-Class มีทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น
เวอร์ชั่นแรกเป็นกระบะที่สร้างมาเพื่อสมรรถนะทางด้านออฟ-โรดเป็นหลัก ซึ่งได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการบุกป่าฝ่าดงโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวินช์ไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าและด้านท้าย รวมไปถึงยางออฟโรดที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่ในถิ่นทุระกันดารโดยเฉพาะ ตามคอนเซ็ป The Powerful Adventurer
ส่วนอีกเวอร์ชั่นหนึ่งเป็นกระบะที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในเมือง ซึ่งจะเน้นไปที่รูปลักษณ์ การตกแต่งภายนอก และความหรูหราของห้องโดยสาร เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก สอดคล้องอย่างไม่มีที่ติกับคอนเซ็ปท์ Stylish Explorer
2. X-Class ใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกับ Nissan Navara NP300
ถึงแม้ว่า X-Class จะถูกออกแบบและพัฒนาในประเทศเยอรมัน แต่ทว่ากระบะสัญชาติเยอรมันคันนี้ ใช้กระดูกสันหลังร่วมกับกระบะสายเลือดซามูไรอย่าง Nissan Navara NP300 ซึ่งการที่ Mercedes-Benz ตัดสินใจที่จะนำเอาแพลตฟอร์มของ Navara มาพัฒนาต่อยอดนั้น จะทำให้ช่วยลดเวลาการพัฒนาได้อย่างมหาศาล ซึ่งการใช้แพลตฟอร์มร่วมกันนี้ เป็นความร่วมมือโดยตรงระหว่าง Mercedes-Benz และ Renault-Nissan Alliance
3. X-Class จะเริ่มไลน์การผลิตในปีหน้า (ปลายปี 2017)
หลังจากได้อวดโฉมในเวอร์ชั่นของคอนเซ็ปคาร์ไปได้เพียงไม่นาน Mercedes-Benz ก็ได้ออกมาประกาศว่า X-Class จะเริ่มการผลิตอย่างเต็มรูปแบบภายในปีหน้า (ปลายปี 2017) โดยประเทศที่จะ X-Class จะเข้าไปทำการตลาดจะเป็นฝั่งละตินอเมริกา และแอฟริกาใต้เป็นหลัก
4. ตัวท็อปของ X-Class จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล V6
ถึงแม้ว่าทาง Mercedes-Benz จะยังไม่ได้เผยถึงรายละเอียดเชิงลึกของขุมกำลังที่อยู่ใน X-Class คันนี้ แต่สำหรับรุ่นท็อปนั้น เครื่องยนต์ดีเซล V6 จะถูกนำมาประจำการ สำหรับกำลังสูงสุดที่ทำได้นั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด แต่มั่นใจได้เลยว่าเจ้าเครื่อง V6 บล็อกนี้ ต้องมีทอร์คมหาศาลอย่างแน่นอน เพราะว่ารถกระบะสายพันธุ์เยอรมันคันนี้ มีความสามารถบรรทุกถึง 1.1-ตัน อีกทั้งยังมีความสามารถในการลากจูงถึง 3.5-ตัน
5. X-Class จะเข้าไปตีตลาดรถกระบะในละตินอเมริกาและออสเตรเลีย
กระบะจากค่ายดาวสามแฉกคันนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำตลาดในแถบละตินอเมริกาและออสเตรเลีย รวมไปถึงประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ ถือเป็นตลาดหลักของรถกระบะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบะขนาด 1-ตัน ซึ่งกลายมาเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของผู้คนแถบนั้น
ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม ข่าวสารยานยนต์หรือ บทความอื่นๆได้ที่ แฟนเพจ Joh's Autolifeได้เลยครับผม