Ford เดินหน้าพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Car) ตามแผนระยะยาวของบริษัท โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างรถยนต์ที่ขับอัตโนมัติไร้คนชับแบบ 100% ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ ซึ่งคำว่า อัตโนมัติไร้คนขับ 100% นั้น หมายความว่า ในรถยนต์จะไม่มีพวงมาลัย ไม่มีคันเร่ง รวมไปถึงไม่มีแป้นเบรกด้วยครับ
Mark Fields ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ของ Ford ได้ประกาศถึงสถานการณ์ของบริษัทเกี่ยวกับการพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติว่า ขณะนี้พวกเขาได้ดำเนินการพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติมาถึงระดับที่ 4 แล้ว (รถยนต์ระดับที่ 4 ยังไม่มีจำหน่ายโดยทั่วไป)
โดยที่ขั้นต่อไปจะเป็นระดับที่ 5 ซึ่งก็คือระดับสูงสุด รถยนต์ที่อยู่ในระดับที่ 5 นั้น คือรถยนต์ที่สามารถขับขี่อัตโนมัติได้อย่าง 100% (Driverless) โดยที่คนขับไม่จำเป็นต้องใช้มือหมุนพวงมาลัย หรือใช้เท้ากดคันเร่ง รวมไปถึงเหยียบแป้นเบรก โดยคาดว่ารถยนต์ระดับที่ 5 นี้ จะแล้วเสร็จภายในปี 2021
ผมจะขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนผังการพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติของ Ford ก็แล้วกันนะครับ
ระดับที่ 0 หมายถึง รถยนต์ที่ต้องให้ผู้ขับเป็นคนควบคุมการขับขี่แบบ 100%
ระดับที่ 1 หมายถึง รถยนต์ที่สามารถควบคุมความเร็วได้ด้วยตัวเอง (รถยนต์ที่มี Active Cruise Control) แต่ผู้ขับยังต้องควบคุมพวงมาลัยเพื่อบังคับทิศทางของตัวรถ
ระดับที่ 2 หมายถึง รถยนต์ที่สามารถควบคุมความเร็วได้ด้วยตัวเอง และเปลี่ยนเลนเองได้ แต่ผู้ขับจะต้องเป็นผู้เหยียบเบรกเพื่อลดความเร็วเอง และเหยีบคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วในบางกรณี
ระดับที่ 3 หมายถึง รถยนต์ที่สามารถเร่งและหยุด รวมไปถึงหมุนพวงมาลัยเพื่อบังคับทิศทางเองได้ แต่ต้องอาศัยการตัดสินใจจากคนขับในบางกรณี
ระดับที่ 4 หมายถึง รถยนต์ที่สามารถเร่งและหยุด รวมไปถึงหมุนพวงมาลัยเพื่อบังคับทิศทางได้ และสามารถตัดสินใจเองได้อย่าง 100%
ระดับที่ 5 หมายถึง รถยนต์ที่สามารถขับขี่อัตโนมัติได้อย่าง 100% (Driverless) และไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ที่ใช้บังคับควบคุมรถ นั่นหมายความว่า ในห้องโดยสารจะไม่มีพวงมาลัย ไม่มีคันเร่ง ไม่มีแป้นเบรก และไม่มีคันเกียร์
บทความแนะนำ ความเหมือนที่แตกต่าง : VTEC Turbo ปะทะ EcoBoost
นอกจากนั้น Ford ยังได้ประกาศว่า พวกเขากำลังดำเนินการลงทุนในบริษัทอีก 4 บริษัท ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งจะมาร่วมกันช่วยพัฒนาความสมบูรณ์แบบให้กับระบบขับขี่อัตโนมัติ และในครั้งนี้ Ford ก็ยังได้ร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัย Stanford, MIT และมหาวิทยาลัย Michigan เกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคตอีกด้วย
บทความแนะนำ [รีวิว] SYLPHY DIG Turbo, CIVIC RS Turbo และ FOCUS EcoBoost
เรียกได้ว่าเดินหน้าอย่างเต็มกำลังจริงๆ ครับ สำหรับค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากอเมริกาค่ายนี้ ก็ต้องรอดูกันยาวๆ เลยทีเดียวสำหรับเทคโนโลยีไร้คนขับว่ามันจะคือนวัตกรรมที่สดใส หรือว่าหายนะทางเทคโนโลยีกันแน่
ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม ข่าวสารยานยนต์ หรือ บทความอื่นๆ ได้ที่ แฟนเพจของเราเลยครับผม