ส่อเค้าจะเริ่มเปิดผ้าคลุมเข้าไปทุกที สำหรับ 2019 LAMBORGHINI URUS รถยนต์ SUV สมรรถนะสูง คันแรกและคันเดียวแห่งตระกูล LAMBORGHINI ซึ่งว่ากันว่า ‘กระทิง-สายอวบ’ คันนี้ กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

สำหรับวันนี้ ผมก็ได้รวบรวมข้อมูลเชิงเทคนิคของ URUS มาให้อ่านเพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อน ลองดูกันครับว่า กระทิงเวอร์ชั่ร SUV คันนี้ มี ‘ของดี’ อะไรดีบ้าง?

 

1. URUS คือ ‘กระทิง-สายหอย’

2019 LAMBORGHINI URUS จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน พ่วงกับระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ LAMBORGHINI ที่มีการนำระบบอัดอากาศมาใช้อย่างเป็นทางการ โดยก่อนหน้านี้ เครื่องยนต์ที่ประจำการใน LAMBORGHINI ทั้งหมดนั้น เป็นเครื่องยนต์หายใจเอง-ไร้ระบบอัดอากาศ ซึ่งถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่กระทิงทุกตัวสืบทอดมาอย่างยาวนาน...

 

 

สำหรับ LAMBORGHINI URUS นั้น ได้ละเว้นประเพณีปฏิบัติดังกล่าว และหันไปคบกับเทอร์โบชาร์จเจอร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดความจุของเครื่องยนต์ลงมา และวัตถัประสงค์หลักนั้นก็คือว่า ทาง LAMBORGHINI หมายมั่นให้ URUS เป็น SUV ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่าง และแน่นอนว่า รถยนต์ที่สามารถขับได้ทุกวันได้นั้น ก็ต้องมีอัตราการบริโภคน้ำมันในระดับที่น่าพอใจ เพราะเหตุนี้ URUS จึงได้ลดความจุเครื่องยนต์เหลือเพียง 4.0-ลิตร และอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่

 

2. เครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ประจำการที่ด้านหน้า

2019 LAMBORGHINI URUS มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินความจุ 4-ลิตร V8 ทวิน-เทอร์โบ ติดตั้งไว้ใต้ฝากระโปรงหน้า สร้างแรงม้าได้ประมาณ 650-แรงม้า เครื่องยนต์ใหม่นี้ ถูกพัฒนาภายใต้หลังคาของ LAMBORGHINI ไม่ได้หยิบยืมมาจากสมาพันธ์ VW Group แต่อย่างใด

 

 

ด้วยความกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถวางไว้ที่ตำแหน่งด้านหน้าอย่างพอดิบ-พอดี นอกจากนั้นแล้ว Maurizio Reggiani ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ LAMBORGHINI ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เครื่องยนต์ V8 ใหม่ล่าสุดนี้ นอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังมีประหยัดน้ำมันและมีทอร์คมาให้ใช้งานตั้งแต่รอบต่ำ

 

วิดีโอ - 2019 Lamborghini Urus ทดสอบที่สนาม Nürburgring

 

3. URUS เวอร์ชั่นไฮบริด จะคลอดตามหลังเวอร์ชั่นน้ำมัน

นอกจากเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ แล้ว URUS เวอร์ชั่นไฮบริด (แบบปลั๊ก-อิน) จะเปิดตัวตามหลังแบบคลานตามกันมา สำหรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของเวอร์ชั่นไฮบริดนั้น ยังไม่มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า เมื่อรวมกำลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว น่าจะมีกำลังใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ

 

 

4. แพลทฟอร์มของตัวถัง...ถูกพัฒนาร่วมกับรถยนต์ SUV ในเครือ VW Group

ถึงแม้ LAMBORGHINI จะพัฒนาเครื่องยนต์ด้วยตัวเอง แต่สำหรับตัวถังของ SUV คันนี้ ใช้พื้นฐานร่วมกับรถยนต์ SUV คันอื่นๆ ในกลุ่ม VW Group เป็นต้นว่า Audi Q7, Porsche Cayenne และ Bentley Bentayga

 

 

5. ราคา-ค่าตัว ไม่น่าจะเกิน 200,000-USD (ไม่เกิน 7-ล้านบาท)

สำหรับราคาของ LAMBORGHINI URUS ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ จะอยู่ราวๆ 150,000-200,000-USD และในรุ่นไฮบริดนั้น แน่นอนว่าราคาจะสูงขึ้น แต่คาดว่าไม่น่าเกิน 220,000-USD

LAMBORGHINI วางแผนจะผลิต URUS ในปี 2019 โดยตั้งเป้าการผลิตไว้ที่ 3,500-คัน ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าพ่อ SUV อย่าง Audi และ Volvo แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าพ่อซุปเปอร์คาร์ที่ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงมาโดยตลอดอย่าง LAMBORGHINI จำนวน 3,500-คัน ภายในระยะเวลา 1 ปี ถือเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม ข่าวสารยานยนต์ หรือ บทความอื่นๆ ได้ที่ แฟนเพจ Joh's Autolife ได้เลยครับผม

 

Source : http://www.roadandtrack.com/

 

Get Connected | ติดต่อกับพวกเราได้ที่...