เมื่อไม่นานมานี้ ELON MUSK ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ TESLA ได้เปิดตัวรถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงอย่าง TESLA ROADSTER รถสปอร์ตสายพันธุ์ EV ที่อ้างว่าสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96.6 กม/ชม) โดยใช้เวลาเพียง 1.9-วินาที และสถิตินี้ ก็เพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งรถยนต์โปรดัคชั่นคาร์...ที่เร็วที่สุดในโลก
แต่หลังจากการเปิดตัว TESLA ROADSTER ได้เพียงอาทิตย์เดียว ก็ได้มีบริษัทม้ามืดจากไต้หวันชื่อว่า XING MOBILITY ได้เปิดตัวไฮเปอร์คาร์สายพันธุ์ EV (อย่างไม่เป็นทางการ) โดยขุนศึกจากไต้หวันคันนี้ มีชื่อว่า ‘MISS R’ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 4-ตัว (ติดตั้งไว้ที่ล้อทั้ง 4) สร้างแรงม้าได้ทั้งหมด 1,341-แรงม้า (1-เมกะวัตต์) ด้วยพละกำลังมหาศาลนี้ ทำให้มันสามารถเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 1.8-วินาที (TESLA ROADSTER ใช้เวลา 1.9-วินาที)
นอกจากนั้นแล้ว ‘MISS R’ ยังอ้างว่ารถของพวกเขาสามารถทะยานจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยระยะเวลาเพียง 5.1-วินาที ซึ่งเร็วกว่าสุดยอดไฮเปอร์คาร์จากฝรั่งเศส BUGATTI CHIRON (เร็วกว่าประมาณ 1-วินาที) ส่วนความเร็วสูงสุดนั้น ยังไม่ได้ทำการเปิดเผยแต่อย่างใด...
สำหรับ ‘MISS R’ นั้น ยังคงอยู่ในช่วงของการวิจัยและผลิตรถยนต์ต้นแบบ ส่วนแผนการผลิตและจำหน่ายจริงนั้น ทาง XING MOBILITY ยังไม่ได้ปริปากแต่อย่างใด
แต่ถึงแม้ว่า ‘MISS R’ จะยังไม่มีแผนการผลิตและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่อัตราเร่งรวมไปถึงสถิติอื่นๆ ของ ‘MISS R’ ก็ต้องทำให้ ELON MUSK ปวดหัวอย่างอย่างแน่นอน และต้องกลับทบทวนเพื่อหาช่องโหว่ของ TESLA ROADSTER ก่อนที่มันจะถูกจำหน่าย และถูกเรียกว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างไม่มีข้อกังขา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ ‘MISS R’ จะมีอัตราเร่งที่เหนือกว่า TESLA ROADSTER แต่สิ่งที่ ‘MISS R’ ต้องพ่ายแพ้ก็คือ ‘ระยะทำการของแบตเตอรรี่’ โดย TESLA ROADSTER นั้น มีระยะทำการไกลถึง 620-ไมล์ (ประมาณ 1,000-กิโลเมตร) แต่ทางด้าน ‘MISS R’ นั้น มีระยะทำการเพียงแค่ 155-ไมล์ (ประมาณ 250-กิโลเมตร) เท่านั้นเอง ห่างกันลิบลับเลยทีเดียว
X MOBILITY ได้เพิ่มเติมว่า พวกเขาต้องการให้ ‘MISS R’ เป็นไฮเปอร์คาร์ที่สามารถวิ่งได้ทั้งทางเรียบ และลุยแบบออฟ-โรดได้เป็นคันแรกของโลก โดยจะอาศัยการทำงานของช็อค-อัพแบบปรับความหนืดอัตโนมัติ เพื่อเปลี่ยนโหมดให้สามารถลุยทางขรุขระได้มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นแล้ว การวางเลย์เอาท์ของล้อให้ยื่นออกมาจากตัวรถนั้น ก็เป็นการช่วยเพิ่มการเคลื่อนที่ขึ้น-ลง ของล้อ ช่วยเพิ่มสมรรถนะการลุยทางออฟ-โรด ให้กับ ‘MISS R’ คันนี้นั่นเองครับ
ที่มา - topgear.com