กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ สำหรับวันนี้ ก็เป็นรีวิวตอนที่ 2 ของ Honda Accord Hybrid ซีดานหรูสายพันธุ์ไฮบริดที่น่าจับตามองที่สุดในคลาส D-Segment ในตอนที่แล้ว เราได้ไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Honda Sensing ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ และยังช่วยลดความเมื่อยล้าระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย
สำหรับวันนี้ เราก็จะไปเจาะลึกอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Honda Accord คันนี้ นั่นก็คือ ขุมกำลังไฮบริดนั่นเอง ซึ่งถูกเรียกว่าระบบไฮบริด i-MMD และถือเป็นระบบไฮบริดแบบ ADVANCED FULL HYBRID ที่ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่ Honda เคยมีมา ซึ่งสามารถให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบสุดๆ ได้อีกด้วย
ระบบ Hybrid i-MMD มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ทั้งหมด 2 ตัว (มอเตอร์ขับเคลื่อน 1 ตัว และเจนเนอเรเตอร์อีก 1 ตัว) เมื่อผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์แล้ว สามารถให้สมรรถนะแรงม้าสูงสุดได้ถึง 215 แรงม้าและมีแรงบิดสูงสุดถึง 315 นิวตันเมตร ทำให้รถ Accord hybrid มีอัตราเร่งตอบสนองทันใจอย่างรวดเร็วในทุกๆย่านความเร็ว
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัวนั้น ติดตั้งต่อร่วมกับเกียร์ E-CVT ถึงแม้จะมีชื่อเรียกว่า E-CVT แต่ความจริงแล้วในชุดส่งกำลังชุดนี้จะไม่มีสายพานหรือพูเลย์อย่างเช่นเกียร์ CVT ทั่้วไป หากแต่ในชุด E-CVT ของ Honda Accord Hybrid จะใช้ฟันเฟืองส่งกำลัง พร้อมกับชุดล็อคอัพคลัทช์ซึ่งทำหน้าที่ตัดต่อกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อ
ก่อนอื่นก็ต้องมาอธิบายระบบไฮบริดสุดไฮเทคของรถ Accord Hybrid คันนี้กันก่อนนะครับ Honda เรียกเทคโนโลยีไฮบริดว่า Hybrid i-MMD ย่อมาจาก Intelligent Multi-Mode Drive ถือเป็นรถสปอร์ตไฮบริด ซึ่งสามารถแบ่งการทำงานออกเป็นรูปแบบการขับขี่หลักๆ ทั้งหมด 3 โหมดดังนี้
1. EV DRIVE MODE = โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับขับขี่ในเมือง
มอเตอร์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนตัวด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (ซึ่งจะเงียบมาก เครื่องยนต์ยังไม่ได้ทำงาน ทำให้ประหยัด) ในขณะลดความเร็ว มอเตอร์ก็จะชาร์จกระแสไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ เพื่อสะสมเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไป
2. HYBRID DRIVE MODE = โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด เหมาะสำหรับเร่งแซง ทำความเร็ว
ในโหมดนี้ มอเตอร์ไฟฟ้ายังคงเป็นตัวขับเคลื่อนรถยนต์อยู่ แต่ในขณะเดียวกัน เครื่องยนต์จะเริ่มทำงาน จะปั่นไฟจ่ายให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีกต่อหนึ่ง ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงบิดได้สูงสุดอย่างรวดเร็ว มีอัตราเร่งที่ตอบสนองอย่างทันใจ โหมดนี้จะทำงานในขณะเร่งแซงหรือทำความเร็ว
3. ENGINE DRIVE MODE = โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ เหมาะสำหรับวิ่งความเร็วสูงคงที่
ขณะที่เราขับด้วยความเร็วสูงคงที่ เช่นการขับบนทางด่วน ในโหมดนี้ ชุดล็อกอัพคลัทช์จะเชื่อมต่อถึงกันกับเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ ถ่ายทอดกำลังไปยังล้อโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อยู่ในโหมดเครื่องยนต์ (ENGINE DRIVE MODE) ก็จะมีบางจังหวะสลับการทำงานเป็นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EV DRIVE MODE) แต่กระแสไฟฟ้าต้องมีเพียงพอ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีที่สุด
เราลองไปชมวิดีโอการรีวิว พร้อมทั้งสาธิตการขับขี่ในโหมดต่างๆ กันครับ
วิดีโอ – REVIEW : HONDA ACCORD HYBRID
(ตอนที่ 2 – เจาะลึกระบบไฮบริด i-MMD)
เรียกได้ว่ามีการทำงานที่ซับซ้อนไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ สำหรับระบบไฮบริดของ Accord Hybrid คันนี้ และการสลับการทำงานของโหมด i-MMD ที่สัมพันธ์และรวดเร็วนี่เอง คือความลับที่ทำให้ Honda Accord Hybrid คันนี้ มีทั้งสมรรถนะที่โดดเด่น และในขณะเดียวกัน ก็มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ประหยัดอย่างน่าประทับใจ
และสำหรับการรีวิว Honda Accord Hybrid คันนี้ ก็ยังไม่จบเท่านี้นะครับ ในตอนต่อไป ก็คือตอนที่ 3 ซึ่งเราจะไปทดสอบในเชิงสมรรถนะการทำงานของระบบไฮบริด นั่นก็คือว่า เราจะไปทดสอบอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหลังจากที่เราได้ขับทดสอบ Honda Accord Hybrid มาพักใหญ่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจก็คือ ‘แรงบิด’ ที่มีมาให้ใช้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำ เพราะฉะนั้น ผมบอกได้เลยว่า อัตราเร่ง 0-100 ของซีดานสายพันธุ์ไฮบริดคันนี้ จะต้องเป็นอะไรที่น่าสนใจมากแน่นอน โดยท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้โดยตรงที่ แฟนเพจ Joh’s Autolife ได้เลยครับผม