Joh's - [REVIEW] MAGIC COLLAR ไอเท็มสำหรับคนรักช่วงล่าง (วิเคราะห์+รีวิว)

เรียบเรียงโดยJoh Burut

ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านน่าจะเคยได้ยิน-ได้เห็น เกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมสมรรถนะช่วงล่างที่เรียกว่า MAGIC COLLAR และผมก็เชื่ออีกว่า มีท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อย ที่ยังสงสัยว่ามันคืออะไร และช่วยเพิ่มสมรรถนะของช่วงล่างได้อย่างไร

หลังจากที่ผมได้หาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ตัวนี้อยู่หลายอาทิตย์ ในวันนี้...ผมจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ MAGIC COLLAR ให้มากขึ้น โดยเราจะไปวิเคราะห์หลักการทำงาน ข้อดี-ข้อเสีย และหาคำตอบว่า เจ้า MAGIC COLLAR มันช่วยเพิ่มสมรรถนะช่วงล่างได้จริงหรือไม่ ดีขึ้นมาก-น้อยแค่ไหน

และเนื่องจากว่า ตัวผมเองนั้น ก็ได้มีประสบการณ์ทดลองใช้อุปกรณ์ตัวนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว เพราะฉะนั้น นอกจากเนื้อหาในส่วนของการวิเคราะห์แล้ว บทความนี้ก็จะมี รีวิว การใช้งานจริง ซึ่งในครั้งนี้ เราก็ได้ พี่พีทจาก Minna Garageมาร่วมวิจารณ์ด้วยครับ

MAGIC COLLAR คืออะไร

MAGIC COLLAR คือ บูช/ปลอก ทำจากวัสดุประเภทอะลูมิเนียม โดยมีหน้าที่เติมเต็ม ช่องว่าง (Clearance) ระหว่างน็อตที่ใช้ยึดแพล่าง (Sub frame) เข้ากับบอดี้ ซึ่งช่องว่างเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการออกแบบของผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อเป็นการ เผื่อ เอาไว้... โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถใส่น็อตได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เป็นผลให้สามารถลดเวลาการประกอบได้นั่นเองครับ

รถยนต์จากโรงงานจะมี ช่องว่าง แบบนี้ทุกคันครับ จะมาก-จะน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ ซึ่งช่องว่างเหล่านี้เอง ที่เป็นศัตรูของคำว่า สมรรถนะการขับขี่ (Handling Performance)

รูปภาพประกอบ จากSPOON SPORT

MAGIC COLLAR มีหลักการทำงานอย่างไร

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า MAGIC COLLAR จะทำหน้าที่ ลดช่องว่าง ของรูน็อตที่ยึดระหว่าง Sub-frame และ บอดี้ เมื่อช่องว่างเหล่านี้ลดลงแล้ว จะส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะการควบคุมของตัวรถ ทั้งในทางตรงและทางโค้ง

ก่อนติดตั้ง

หลังติดตั้ง

ใส่ MAGIC COLLAR แล้วช่วยเพิ่มสมรรถนะได้อย่างไร

เอาล่ะครับ คราวนี้...เราก็จะมาพูดถึงประโยชน์ของเจ้าบูชอะลูมิเนียมกันบ้าง หลังจากที่ผมได้มีโอกาสทดลองใช้กับรถผมเองมาสักพักใหญ่ๆ ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดเจน ซึ่งผมได้แบ่งประโยชน์ที่ได้จาก MAGIC COLLAR เป็น 2 ส่วนหลักๆ นั่นก็คือ สมรรถนะของการเลี้ยว และ ความนุ่มนวลในการขับขี่

1. สมรรถนะของการเลี้ยว (Cornering Performance)

แน่นอนว่าการลด Clearance ของน็อตยึด sub-frame จะช่วยให้พวงมาลัยตอบสนองได้ไวขึ้น แม่นยำขึ้น นอกจากนั้น ฟีดแบ็คของพวงมาลัยก็มีความเป็น เชิงเส้น (Linear) เพิ่มขึ้นด้วยครับ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในจังหวะ Turn-in (เทิร์น-อิน) ซึ่งเป็นจังหวะที่รถ กำลัง ถ่ายเทน้ำหนักขณะเข้าโค้ง (Weight Transferring)

เมื่อผ่านจุด Turn-in ไปแล้ว (การถ่ายเทน้ำหนักเสร็จสิ้นแล้ว) บทบาทของ MAGIC COLLAR ก็จะลดลง เพราะว่าในจังหวะนี้ สิ่งที่ชี้วัดถึง Cornering Performance ก็คือยางและช็อค-อัพ จึงทำให้เราไม่สามารถสังเกตถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนครับผม

2. ความนุ่มในการขับขี่ (Riding Comfort)

สิ่งที่ได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากสมรรถนะการเลี้ยว ก็คือ Riding Comfort ครับผม เนื่องจากว่า บูชอะลูมิเนียมนั้น จะทำหน้าที่ กั้น ระหว่างบอดี้กับ sub-frame โดยพื้นฐานแล้ว อะลูมิเนียมจะเป็นวัสดุที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าเหล็ก มันจึงทำหน้าที่เป็นเหมือน Damper เพื่อช่วยซับแรงกระแทกที่เกิดจาก Shock Load (แรงกระแทกแบบฉับพลัน) ซึ่งเกิดจากพื้นถนนที่เป็นข้อต่อ ยกตัวอย่างเช่น คอสะพาน รวมไปถึงรอยต่อของถนนครับ

เนื่องจากว่า แรงกระแทกในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที โช๊คเดิมๆ ที่เราใช้อยู่นั้น จะไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันที ทำให้ตัวรถเกิดอาการกระดอน หรือที่เรียกว่า Spring Effect (สปริง เอฟเฟค) การใช้บูชอะลูมิเนียมจะช่วยซับแรง Shock Load ที่ว่านี้ เป็นผลให้ Riding Comfort เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถแต่งที่เซ็ทโช๊ค-อัพแบบแข็งๆ จะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

เอาล่ะครับ มาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่ามีหลายคนอยากจะชมรีวิวแล้ว เราลองไปดูวิดีโอการติดตั้ง พร้อมทั้งการทดสอบกันเลยครับ

วิดีโอ การติดตั้ง + การทดสอบ โดยโจ้ Autolife และพี่พีท Minna Garage

ข้อเสียของ MAGIC COLLAR (ที่อาจจะเกิดขึ้นได้...)

จริงๆ แล้ว จะว่าเป็นข้อเสียก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เอาเป็นว่าข้อเท็จจริงที่ผมจะพูดต่อไปนี้ เป็น ข้อสงสัย แล้วกันครับ ซึ่งคำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง และผมก็มั่นใจว่า ท่านผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะเกิด ข้อสงสัย เช่นเดียวกันกับผม เราลองไปอ่านกันดูครับ

1. การติดตั้ง MAGIC COLLAR ทำให้เกิดเสียงดัง

ข้อกังวลข้อนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะนำรถเข้าไปติดตั้ง เพราะเกรงว่าบูชที่ผลิตมานั้น จะไม่พอดีกับรูยึดน็อต อาจจะหลวมไป หรือว่าแน่นไป ซึ่งแน่นอนว่ามันจะทำให้ช่วงล่างเกิดเสียงดัง

แต่หลังจากการทดสอบการใช้งาน (อย่างหนักหน่วง 555) รวมไปถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันกว่า 2,000 กิโลเมตร ก็ไม่เคยได้ยิน เสียงดังรบกวน จากช่วงล่างแต่อย่างใด ชิ้นส่วนช่วงล่างทุกชิ้นยังคงเฟิร์ม และไม่มีการสั่นคลอน

2. การติดตั้ง MAGIC COLLAR ทำให้มุมล้อเพี้ยน

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อกังวลของผม เนื่องจากว่า การติดตั้ง MAGIC COLLAR ต้องทำการถอดแพล่างทั้งด้านหน้าและหลัง สิ่งที่ผมคิดในใจก็คือว่า มุมล้อต้องเพี้ยนไปจากเดิม และผมก็ต้องกลับไปตั้งศูนย์ใหม่อย่างแน่นอน

แต่หลังจากได้คุย น้องธูป Monkeys Shop Performanceก็เบาใจขึ้น เพราะถึงแม้การติดตั้งจะต้องถอดแพล่าง แต่มุมล้อนั้น แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม (เปลี่ยนแปลงน้อยมากๆ หรืออาจจะไม่เปลี่ยนเลย) เพราะฉะนั้น หลังติดตั้ง MAGIC COLLAR ไม่จำเป็นต้องตั้งศูนย์ใหม่นะครับ

3. การติดตั้ง MAGIC COLLAR จะทำให้เกิดสนิม

ผมเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในข้อนี้ การเกิดสนิมที่ผมพูดถึงนี้ ก็คือ การกัดกร่อนประเภท Galvanic Corrosion (กัลวานิค คอรอสชั่น) ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เรานำโลหะสองชนิด (เหล็กและอะลูมิเนียม) มาสัมผัสกัน จะทำให้เกิดปฏิกิริยาการกัดกร่อนซึ่งเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนอิเล็กตรอน

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นได้ยากมากในรถยนต์รุ่นใหม่ และระหว่างการติดตั้ง MAGIC COLLAR นั้น ก็ได้มีการเคลือบจารบีคุณภาพสูงไว้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งชั้นฟิล์มของจารบีจะช่วยป้องกันการกัดกร่อนอีกต่อหนึ่ง เพราะฉะนั้น ปฏิกิริยา Galvanic Corrosion จึงแทบจะไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเลยครับ

บทสรุป

MAGIC COLLAR ถือเป็นอุปกรณ์เสริมสมรรถนะช่วงล่างที่ไม่มีความซับซ้อน ไม่ต้องดัดแปลงชิ้นส่วนใดๆ ของตัวรถเลย และใช้เวลาในการติดตั้งเร็วมากๆ (ใช้เวลาติดตั้งบนรถผมเอง ไม่เกิน 1 ชม.) แล้วก็สามารถเห็นความแตกต่างได้ค่อนข้างน่าประทับใจ สำหรับใครที่กำลังที่อยากอัพเกรดสมรรถนะช่วงล่างให้เฟิร์มขึ้น ขับสนุกขึ้น รวมไปถึงคนที่ คัน ...อยากรู้ อยากลอง ก็จัดไปอย่าให้เสียครับ

สำหรับรายละเอียดรุ่นรถที่สามารถติดตั้งได้ รวมไปถึงราคาของผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้โดยตรงที่ แฟนเพจ MAGIC COLLARได้เลยครับผม