เรียบเรียงโดยJoh Burut

 

 

เมื่อปลายปีที่แล้ว Honda ได้เปิดตัว Civic Type R ลำใหม่ล่าสุด (FK2R) ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร VTEC-Turbo พิกัด 310 แรงม้า ทำให้มันกลายเป็น Type R ที่ แรงที่สุด ในตระกูล เฮช-แดง เพราะฉะนั้น มันจึงไม่แปลกนักที่ FK2R จะได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากเหล่าสื่อมวลชน รวมไปถึงนักวิจารณ์รถยนต์จากทั่วโลก

 

2015 Honda Civic Type R (FK2R)

 

2007 Honda Civic Type R (FD2R)

 

ใหม่กว่า...ใช่ว่าจะ ดีกว่า

เก่ากว่า...ใช่ว่าจะ แย่กว่า

 

ท่ามกลางคำยกย่องสรรเสริญให้กับ แฮทช์แบค-เฮชแดง คันล่าสุดอย่าง FK2R มันก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า...รถคันนี้มันสมบูรณ์แบบขนาดนั้นเลยเหรอ มันไม่มีจุดด้อยอะไรเลยเหรอ

2015 Honda Civic Type R (FK2R)

 

2007 Honda Civic Type R (FD2R)

 

เพราะฉะนั้น ในวันนี้ ผมก็เลยขอสวนกระแสโดยการนำเสนอ จุดด้อย ของ FK2R ซึ่งจุดด้อยเหล่านี้เกิดขึ้นมาจากการที่ผมเอา FK2R ไปเปรียบเทียบกับ Civic Type R รุ่นพี่อย่าง FD2R ที่ถึงแม้ว่าจะตกรุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าซีดานสมรรถนะสูงคันนี้ ก็ยังเป็นรถยนต์ที่ขาซิ่งถวิลหาอยู่ไม่คลาย

บทความแนะนำ เปิดตำนาน Type R : จาก พันหก-รอบจัด ...สู่ สองพัน-เทอร์โบ

จริงๆ แล้ว จะว่าเป็น จุดด้อย ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนะครับ เอาเป็นว่ามันเป็น ข้อแตกต่างที่น่าสนใจ ก็แล้วกันครับ และที่สำคัญ เหตุผลที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมล้วนๆ นะครับ เพราะฉะนั้น อาจจะมีเหตุผลบางข้อที่ท่านผู้อ่านเห็นด้วยและก็ไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้เห็นถึงมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับรถยนต์สองคันนี้ครับ

เอาล่ะ ผมว่าผมโม้มาเยอะแล้ว เราไปดูดีกว่าครับว่า มีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ผมชื่นชอบ FD2R มากกว่า FK2R!!

 

1. FD2R มีช่วงล่างด้านหลังแบบ ปีกนกคู่

FD2R มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบ Double Wishbone (ดับเบิล วิชโบน) หรือที่เราเรียกว่า ปีกนกคู่ ครับผม แต่สำหรับน้องใหม่อย่าง FK2R นั้น มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบ Torsion Beam (ทอร์ชั่น บีม) หรือที่รู้จักกันในชื่อ คานแข็ง นั่นเองครับ

สำหรับช่วงล่างปีกนกคู่ของ FD2R นั้น เป็นช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถแข่งอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นช่วงล่างที่ทำให้ยางสัมผัสกับพื้นถนนได้อย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบการขับขี่ แต่สำหรับช่วงล่างคานแข็งของ FK2R นั้น ตามหลักการแล้ว มันเป็นช่วงล่างที่มีสมรรถนะด้อยกว่าอยู่นิดหนึ่ง เหตุผลก็เพราะว่า ช่วงล่างแบบคานแข็ง ไม่สามารถดึงเอาสมรรถนะของยางมาใช้ได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ

ส่วนสาเหตุหนึ่งที่ FK2R เลือกใช้ช่วงล่างแบบคานแข็งนั้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนการผลิต เนื่องจากว่า ช่วงล่างแบบนี้มีชิ้นส่วนน้อยกว่า ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า เพราะฉะนั้น โดยปกติแล้ว ช่วงล่างแบบคานแข็งจึงเป็นช่วงล่างที่พบได้ในรถยนต์ประเภทซิตี้คาร์ อย่างเช่น Honda Jazz เป็นต้นครับ

 

2. FD2R มีเรดไลน์ที่สูงถึง 8,400 RPM

หน้าปัทม์ของ FD2R

 

FD2R มาพร้อมกับเครื่อง K20A ไร้ระบบอากาศ สร้างแรงม้าได้ 222 ตัวที่ 8,000 รอบ และมีเรดไลน์ที่สูงชวนเสียวถึง 8,400 RPM!! ในทางด้านของ FK2R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ K20C1 ที่มาพร้อมกับระบบอัดอากาศ เทอร์โบชาร์เจอร์ สร้างกำลังได้ 310 แรงม้าที่ 6,500 แรงม้า และมีเรดไลน์เพียงแค่ 7,000 รอบเท่านั้นเอง

หน้าปัทม์ของ FK2R

 

ท่านผู้อ่านอาจจะงงว่า เครื่องยนต์ของ FK2R สามารถสร้างแรงม้าได้มากกว่าเกือบ 100 ตัว ...แล้วทำไมผมยังหัวดื้อ ไปเข้าข้างเครื่อง K20A ของ FD2R ...แต่ผมจะบอกให้ว่า คำตอบไม่ได้อยู่ที่แรงม้าครับ คำตอบมันอยู่ที่คำว่า เสน่ห์

บทความแนะนำ คัมภีร์ VTEC : เจาะลึกระบบวาล์วแปรผันของเครื่องยนต์ HONDA

ส่วนตัวผมแล้ว ผมมองว่า...เครื่อง VTEC ของ Honda ยังไงมันก็ต้องเป็น N/A นะ...ซึ่งเสน่ห์ของมันอยู่ที่เสียงของเครื่องยนต์รอบจัดของเครื่อง K20A ที่สามารถลากรอบได้เกือบๆ 9,000 รอบ อีกทั้งเสียงของวาล์ว VTEC ของเครื่อง N/Aก็ให้อารมณ์เรซซิ่งแบบสุดๆ เรียกได้ว่า...อยากจะลากรอบให้ VTEC เปิดทุกเกียร์แม่มเลย ยังไง VTEC มันก็ต้องคู่กับ N/A แหละนะ...ผมว่า

บทความแนะนำ ความเหมือนที่แตกต่าง : VTEC Turbo ปะทะ EcoBoost

 

3. ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ของ FD2R เป็นระบบไฮดรอลิคส์

ในขณะที่ Honda Civic FD2 รุ่นปกติได้ทำการเปลี่ยนระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) เรียบร้อยแล้ว ...แต่ FD2R คันนี้ ยังคงเลือกใช้ระบบพวงมาลัยแบบไฮดรอลิคส์ (Hydraulic Assist Steering) ในส่วนของรุ่นน้องอย่าง FK2R นั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่า มาพร้อมกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ EPS 100%

FD2R มาพร้อมกับระบบพวงมาลัยไฮดรอลิคส์

 

แล้วพวงมาลัยไฮดรอลิคส์...มันดีกว่ายังไง

 

ถ้าจะตอบคำถามข้อนี้ ก็ต้องเท้าความไปถึงหลักการทำงานของพวงมาลัยไฮดรอลิคส์กันสักนิดหนึ่งครับ พวงมาลัยไฮดรอลิคส์เป็นระบบบังคับที่อาศัยการผ่อนแรงจากน้ำมันไฮดรอลิคส์ครับ ข้อดีของระบบนี้ก็คือว่า เราจะสามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และนอกจากนั้น พวงมาลัยประเภทนี้ยังมี ฟีดแบ็ค (การตอบสนอง) ที่ดีกว่าระบบพวงมาลัยแบบไฟฟ้า (ESP) จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้กับรถสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อซิ่งในสนามอย่างรถยนต์ตระกูล Type R

FK2R มาพร้อมกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้า

 

อย่างไรก็ตาม พวงมาลัยแบบไฮดรอลิคส์ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะครับ อย่างแรกเลยก็คือมันกินแรงม้าของเครื่องยนต์ส่วนหนึ่งเพื่อส่งกำลังไปปั๊มน้ำมันไฮดรอลิคส์ครับ อีกอย่างก็คือว่า พวงมาลัยแบบนี้จะ หนักกว่า แบบไฟฟ้าอยู่นิดหน่อย ...แต่ถ้าเปรียบเทียบกันในแง่ของสมรรถนะการควบคุมการขับขี่แล้ว ยังไงๆ ผมก็ยังยืนว่า...ผมชอบอารมณ์ดิบๆ ของพวงมาลัยแบบไฮดรอลิคส์มากกว่าครับ ได้ฟีลลิ่งเรซซิ่งแบบฝุดๆ

 

4. FD2R มีน้ำหนักเบากว่า FK2R

สำหรับซีดานรุ่นเก๋าอย่าง FD2R นั้น ถึงแม้ทรวดทรงองค์เอวจะดูอวบกว่า FK2R แต่เมื่อเอาน้ำหนักมาเปรียบเทียบกันแล้ว น่าตกใจมากกว่าครับที่ FD2R มีน้ำหนักเบากว่า FK2R อย่างน่าประหลาดใจ

FD2R รุ่นปกตินั้น มีน้ำหนักอยู่ที่ 1,270 กิโลกรัม (FD2R รุ่นพิเศษ ไม่มีระบบแอร์มาให้ มีน้ำหนักอยู่ที่ 1,250 กิโลกรัม) สำหรับแฮทช์แบคลำใหม่อย่าง FK2R นั้น มีน้ำหนักมากถึง 1,397 กิโลกรัม!!

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ FK2R หนักกว่านั้น อย่างแรกก็คือแอโรพารณทรอบคันครับ นอกจากนั้น เครื่องยนต์เทอร์โบของ FK2R ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้รถแฮทช์แบคคันนี้ หนักกว่า FD2R มากถึง 130 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยนะครับนั่น

 

5. FD2R เป็นรถที่มีสายเลือด JDM 100%

FD2R เป็นรถที่ถูกวิจัย, พัฒนาและประกอบขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้น มันจึงถือเป็นรถยนต์ที่มีสายเลือด JDM 100% ครับ โดย FD2R ถูกพัฒนาให้มี 2 รุ่นย่อย นั่นก็คือรุ่นที่ขายในประเทศญี่ปุ่น ส่วนอีกรุ่นส่งออกไปขายในฝั่งยุโรปครับผม

FD2R และรุ่นพี่ EK9R (ซ้าย), EP3R (ขวา)

 

สำหรับ FK2R นั้น เป็นรถที่ถูกประกอบในโรงงานในประเทศอังกฤษ มันจึงเป็นรถที่ไม่สามารถเรียกได้ว่า JDM อย่างเต็มปากครับ พูดอีกนัยก็คือ FK2R ไม่ใช่รถที่มีสายเลือดซามูไรโดยกำเนิดนั่นเองครับ

FK2R ถูกประกอบที่โรงงาน Swindon ประเทศอังกฤษ

 

ท่านผู้อ่านหลายคนอาจจะงงว่า ...รถ JDM 100% มันมีดียังไง

อย่างแรกก็คือว่า การซื้อรถยนต์ที่ผลิตจากญี่ปุ่น 100% นั้น จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของอะไหล่ครับ เนื่องจากว่าตลาดอะไหล่รถยนต์ในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะนำเข้ามาจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะอะไหล่เครื่องยนต์ ...ส่วนอีกประการก็คือความ เท่ห์ อันนี้อธิบายยากครับ...ต้องคนเล่นรถด้วยกันถึงจะรู้ว่า ขับรถ JDM แท้ทั้งคันนั้น มัน เท่ห์ แค่ไหน! ฮ่าๆๆๆ

 

 

เอาล่ะฮะท่านผู้ชม! บทความนี้ก็ครบถ้วนกระบวนความแล้วครับ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดี เหตุผลทั้ง 5 ข้อที่ผมสาธยายมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่า FK2R เป็นรถที่ ด้อยกว่า FD2R นะครับ ผมก็เพียงนำเสนอข้อแตกต่างในอีกมุมหนึ่งก็เท่านั้นเอง...

ท่านผู้อ่านสามารถติดตาม ข่าวสารยานยนต์หรือ บทความอื่นๆได้ที่ แฟนเพจของเราเลยครับผม

 

เรียบเรียงโดยJoh Burut

 

 

Get Connected | ติดต่อกับพวกเราได้ที่...