เรียบเรียงโดย Joh Burut
กรุงเทพมหานคร
15-องศาเซลเซียส
อากาศเย็นๆ แบบนี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนั่งดูหนังดีๆ สักเรื่องพร้อมกับจิบเบียร์เย็นๆ สักแก้ว ...ว่าแล้ว ผมก็ออกไปซื้อเบียร์และกลับมานั่งดูทีวีอยู่บ้านอย่างสบายใจ ระหว่างที่เปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยเปื่อย ผมก็มาจ๊ะเอ๋กับสารคดีเกี่ยวกับ นิสสัน จีทีอาร์ (Nissan GTR) จากที่นั่งดูทีวีแบบชิลๆ กลายเป็นว่าผมต้องเอากระดาษกับปากกามานั่งจดอย่างจริงจัง
สารคดีเรื่องที่ว่านี้ชื่อว่า Nissan GTR Breaking all the rules และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ GTR ทำให้ผมต้องอึ้ง เพราะว่า ก็อตซิลล่าจากเกาะญี่ปุ่นคันนี้ เป็นรถที่มีความลับเยอะมาก ทุกๆครั้งที่ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับรถคันนี้ มันก็จะมีเรื่องให้ผมประหลาดใจอยู่เสมอๆ และหลังจากสารคดีความยาว 40 กว่านาทีจบลง ผมไม่รอช้าที่จะสรุปข้อมูลที่ได้มาและเรียบเรียงเป็นบทความนี้
เอาล่ะ...เราไปดูกันดีกว่าว่า ความลับ 5 ประการของจีทีอาร์ R35 จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันครับ... (ถ้าหากท่านผู้อ่านท่านใดที่เคยทราบแล้ว ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ)
ความลับข้อที่ 1: Nissan GTR เป็นรถยนต์ 4 ที่นั่ง ที่เร็วที่สุดในโลก
ถึงแม้บอดี้จะเป็นสปอร์ตสองประตู แต่จีทีอาร์คันนี้ก็มี 4 ที่นั่ง และในปี 2009 ...ก็อตซิลล่ารุ่นแรกก็ได้จารึกสถิติลงใน กินเนส เวิร์ด เรคคอร์ด (Guinness World Records) อย่างเป็นทางการ ในฐานะของรถยนต์ 4 ที่นั่งที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 3.5 วินาที!
หลังจากไมเนอร์เชนจ์ในปี 2011 มันก็เร็วกว่าเดิมอีก สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 2.8 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงระบบไอเสียและจูนแมปปิงเครื่องยนต์ใหม่
นอกจากจะ เร็วโคตร ในทางตรงแล้ว มันยังเลี้ยวได้ โคตรเร็ว ...ในปี 2012 จีทีอาร์คันนี้ทำเวลาได้ 7 นาที 18 วินาที ในสนามสุดโหดอย่าง นูวเบิร์กริง (Nurburgring) ที่ประเทศเยอรมณี ซึ่งเร็วกว่า แลมโบกินี อเวนธาดอร์ (Lamborghini Aventador LP700-4) ซึ่งทำเวลาอยู่ที่ 7 นาที 25 วินาที
ความลับข้อที่ 2: Nissan GTR ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก หุ่นยนต์กันดั้ม!
ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านน่าจะคุ้นตากับรถซุปเปอร์คาร์สายพันธุ์อิตาเลียนอย่าง เฟอร์รารี และ แลมโบกินี รถพวกนี้มีรูปทรงที่ปราดเปรียวเพรียวลม เส้นสายของตัวรถนั้นก็เต็มไปด้วยความโค้งเว้า แถมยังเตี้ยติดดินอีกต่างหาก
แต่สำหรับจีทีอาร์แล้ว มันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง จีทีอาร์เป็นซุปเปอร์คาร์ที่สูงใหญ่ ดูเทอะทะ และเต็มไปด้วยเหลี่ยมและสัน ตั้งแต่กันชนหน้าไปจนถึงกันชนท้ายนั้น...แทบจะหาความโค้งมนไม่ได้เลย
คุณชิโระ นาคามูระ (Shiro Nakamura) หัวหน้าผู้ออกแบบก็อตซิลล่าให้สัมภาษณ์ว่า การออกแบบจีทีอาร์คันนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวละครชื่อดังของการ์ตูนญี่ปุ่น นั่นก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม นั่นเอง และด้วยเหตุนี้ จีทีอาร์จึงเป็นซุปเปอร์คาร์ที่มีแต่เหลี่ยม มีแต่มุม แทนที่จะดูเซ็กซี่-โค้งเว้าเหมือนซุปเปอร์คาร์ค่ายอื่น แต่เจ้า กันดั้มสี่ล้อ คันนี้ ดูแข็งแรงบึกบึน ทรงพลัง และน่าเกรงขาม และนี่ก็ทำให้จีทีอาร์เป็นซุปเปอร์คาร์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
ความลับข้อที่ 3: Nissan GTR เป็นซูปเปอร์คาร์ เพศผู้
มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ...เมื่อเราได้เจอะเจอกับซุปเปอร์คาร์งามๆสักคันหนึ่ง คำแรกที่ออกจากปากเราก็คือ สวยว่ะ ...สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ คำว่า สวย คงไม่เหมาะกับนิสสัน จีทีอาร์สักเท่าไหร่ เพราะว่าเจ้าก็อตซิลล่าตัวนี้เป็น ตัวผู้ นะครับ
คุณชิโระ นาคามูระ ได้บอกความจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับจีทีอาร์คันนี้ นั่นก็คือ เจ้าก็อตซิลล่าตัวนี้ถูกออกแบบมาให้เป็น เพศผู้ คุณชิโระเพิ่มเติมว่า โป่งหลัง ของจีทีอาร์คันนี้ เปรียบเสมือน มัดกล้าม ของผู้ชาย เพราะฉะนั้น จีทีอาร์จึง ไม่ใช่รถที่ สวย ...แต่มันในเป็นรถที่ หล่อ
ความลับข้อที่ 4: Nissan GTR มีค่า Cd เท่ากับ BMW i8 (Cd = 0.26)
BMW i8 เป็นรถสปอร์ตไฮบริดของค่ายใบพัดสีฟ้า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถที่มีแอโรดีที่สุดแห่งทศวรรษ ทุกชิ้นส่วนที่มองเห็นได้จากภายนอก ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า-หลัง กระจกมองข้าง หรือแม้กระทั่งล้อแม็ก
แต่เชื่อหรือไม่ว่า...จีทีอาร์คันนี้ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Coefficient of drag) หรือที่เรียกว่า Cd เท่ากับรถไฮบริดสุดล้ำอย่าง BMW i8
ถึงแม้จะมีรูปร่างใหญ่โตเทอะทะ แต่จีทีอาร์กลับมีแอโรไดนามิคส์ที่ดีอย่างน่าประหลาด ต้องขอบคุณเหล่าแอโรพาร์ทที่ถูกติดตั้งไว้รอบคัน รวมไปถึงบริเวณใต้ท้องรถ เป็นผลให้ก็อตซิลล่ายักษ์มีค่า Cd เพียงแค่ 0.26 เท่านั้นเอง! นอกจากช่วยลดแรงต้านอากาศแล้ว แอโรพาร์ทเหล่านี้ยังช่วยสร้าง แรงกด (Downforce) เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงอีกด้วย
ความลับข้อที่ 5: เครื่องยนต์ของ Nissan GTR ถูกประกอบด้วยมือ
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V6 ของจีทีอาร์ถูกประกอบ ด้วยมือ โดยช่างระดับพระกาฬของนิสสันที่ถูกเรียกว่า ทาคุมิ (Takumi) ซึ่งเป็นสุดยอดช่างที่ถูกฝึกมาเพื่อประกอบเครื่องยนต์โดยเฉพาะ โดยทาคุมิที่ประกอบเครื่องของจีทีอาร์มีทั้งหมดสี่คน ได้แก่ ทาคุมิ คุโระซะวะ, อิซึมิ ชิโอะยะ, โนบุมิซึ โกะซุ และซึเนมิ โอะยามะ (Takumi Kurosawa, Izumi Shioya ,Nobumitsu Gozu and Tsunemi Oyama) ทั้งสี่คนนี้ มีประสบการณ์รวมกันแล้ว มากกว่า 100ปี!
เครื่องยนต์แต่ละเครื่องจะมีป้ายชื่อของทาคุมิที่เป็นคนประกอบแปะเอาไว้ แน่นอนว่า มันเป็นงานที่น่าภาคภูมิใจที่ได้ประกอบเครื่องยนต์ของจีทีอาร์ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของนิสสัน แต่ในขณะเดียวกัน...ผมคิดว่า เหล่าทาคุมิก็คงจะกดดันอยู่พอตัว เพราะว่างานแบบนี้ ...ไม่มีที่ว่างให้กับความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
นอกจากจะเป็นเรือชูธงของนิสสันแล้ว จีทีอาร์ยังเป็นซุปเปอร์คาร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศญี่ปุ่น มันเป็นหนึ่งในรถสายเลือดซามูไรไม่กี่คันที่สามารถต่อกรกับกระทิงดุและม้าพยองได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ มันไม่ใช่แค่สินค้า มันไม่ใช่แค่รถยนต์ ...แต่มันคือความภูมิใจของคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจสารคดีเรื่อง Nissan GTR Breaking all the rules สามารถรับชมได้ที่ลิงค์ข้างล่างเลยครับ
เรียบเรียงโดย Joh Burut
Page Cover by : valvewz.com