เรียบเรียงโดยJoh BURUT

สนับสนุนบทความโดย Motys Oil Thailand

เกียร์ธรรมดา เป็นระบบส่งกำลังที่ดูแลรักษาง่าย ค่าบำรุงรักษาต่ำ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพส่งกำลังมากกว่าเกียร์ออโต้ แถมประหยัดน้ำมันกว่าด้วย ...แต่ทำไม จำนวนประชากรของเกียร์แมนนวล จึงลดลงอย่างน่าใจหาย รถยนต์บางรุ่นบางค่ายถึงขั้น คุมกำเนิด ตัดตอนสายการผลิตเกียร์แมนนวลไปโดยปริยาย คำถามก็คือว่า ทำไม... ทำไม... ทำไม...

เปรียบเทียบสัดส่วนการขายรถยนต์ส่วนบุคคล

ระหว่างเกียร์ออโต้ และเกียร์แมนนวล

สำหรับสาวกเกียร์แมนนวล (อย่างตัวผมเอง) ที่ชื่นชอบการขับรถเกียร์ธรรมดาเป็นชีวิตจิตใจ การได้ทำ เรฟ-แมทชิง(Rev-matching) ในทุกจังหวะเปลี่นนเกียร์ การได้ทำ ฮีล-แอนด์-โท(Heel&Toe) ในทุกโค้งนั้น ล้วนแต่เป็นความสุนทรีย์อันบริสุทธิ์ที่หาได้จากรถยนต์เกียร์แมนนวลเท่านั้น เพราะฉะนั้น การเข้าใกล้ถึงจุดอวสานของเกียร์แมนนวล จึงเป็นอะไรที่น่าหดหู่ใจจริงๆ

บทความแนะนำ HEEL & TOE เทคนิคการเปลี่ยนเกียร์ระดับตำนาน

และในบทความนี้ ผมก็ได้หาข้อมูลและสรุปถึงเหตุผลหลายประการที่ทำให้เกียร์ออโต้ เหนือกว่า เกียร์ธรรมดา ...และแน่นอนว่า เหตุผลเหล่านี้เอง ที่ทำให้จำนวนของรถยนต์เกียร์ธรรมดานั้น ...ลดลงไปอย่างมาก และมีความเป็นไปได้ที่สูญพันธุ์ในเร็ววัน ...ลองไปชมกันครับว่า เหตุผลดังกล่าวจะมีอะไรบ้าง

เหตุผลข้อที่ 1 : เกียร์ออโต้ประหยัดน้ำมันมากกว่าเมื่อก่อนมาก

เปรียบอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระหว่างเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้

(ที่มา EPA (Environmental Protection Agency) Global Trend Report)

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ข้อเสียที่แย่ที่สุดของเกียร์ออโต้ก็คือว่า...มันกินน้ำมัน แต่ในปัจจุบันนี้ ด้วยเทคโนโลยีทางด้านวัสดุศาสตร์ ประกอบกับระบบสมองกลอัจฉริยะที่ฉลาดขึ้นทุกวันๆ ถูกนำมาใช้ตัดสินใจเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ให้เราอย่างอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น ม้า ที่เครื่องยนต์สามารถผลิตได้จึงมีความ เชื่อง และ ต่อเนื่อง ไม่กระแทกดุดันอย่างเกียร์ออโต้สมัยก่อน ซึ่งการที่เครื่องยนต์สามารถถ่ายทอดแรงม้าได้อย่างสมูทและเป็นธรรมชาตินั้น เป็นผลดีอย่างยิ่งต่ออัตราการบริโภคน้ำมัน

โซนแนะนำสินค้า Motys ATF

นอกจากเกียร์ออโต้ยุคใหม่จะได้รับการควบคุมจากกล่องคอนโทรลอัจฉริยะ ประกอบกับชิ้นส่วนภายในที่มีแรงเสียดทานต่ำแล้ว ยังต้องใช้ น้ำมันเกียร์เกรดพิเศษ ซึ่งมีความหนืดต่ำกว่าเกียร์ออโต้รุ่นเก่า และในวันนี้ ทาง Motys ก็มีผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งตัวมาแนะนำ นั่นก็คือ Motys M300 และ M301*น้ำมันเกียร์ออโตเมติคส์ แบบสังเคราะห์ 100% ที่มีความหนืดต่ำในเกรดเดียวกับน้ำมันเกียร์จากค่ายรถยนต์ แต่คุณภาพเหนือกว่า อย่างชัดเจน ช่วยป้องกันอาการ สลิป (อาการลื่น) ของแผ่นคลัทช์ อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิการทำงานของระบบล็อค-อัพ (Lock-up) ซึ่งเป็นระบบสำคัญที่ทำให้เกียร์อัตโนมัติสามารถขึ้นมาเทียบชั้นกับเกียร์แมนนวลได้ ในแง่ของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า ท่านผู้อ่านสามารถสอบถามโดยตรงที่ แฟนเพจ Moty's Thailandได้เลยครับผม

*(น้ำมันเกียร์ M300 เหมาะสำหรับ เกียร์ของ TOYOTA รุ่น WS, NISSAN รุ่น S และรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน)

*(น้ำมันเกียร์ M301 เหมาะสำหรับ เกียร์ของ TOYOTA รุ่น T-4 และรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน)

เหตุผลข้อที่ 2 : เกียร์ออโต้มีสมรรถนะมากกว่า

ผมเชื่อว่าหลายๆ คน (รวมทั้งผมด้วย) น่าจะไม่เห็นด้วยกับเหตุผลข้อนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เราลองไปอ่านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเกียร์ออโต้ในเชิงของสมรรถนะกันก่อนดีกว่าครับ

Lamborghini Aventador SV (7-สปีด ออโต้เมติคส์)

เครื่องยนต์และเกียร์ของ Lamborghini Aventador

Maurizio Reggiani (มาริซิโอ เรกเกียนี) หัวเรือใหญ่ของค่ายกระทิงดุอย่าง แลมโบกินี (Lamborghini) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า...

ถ้าหากคุณต้องการจะควบคุมรถอย่างสมบูรณ์แบบ... คุณก็ต้องควบคุมกำลังจากเครื่องยนต์

ถ้าหากต้องการจะควบคุมกำลังจากเครื่องยนต์... ระบบคลัทช์จะต้องถูกควบคุมอย่างอัตโนมัติ

...ไม่ใช่ถูกควบคุมโดยมนุษย์

ขยายความเพิ่มเติมได้ว่า เพื่อจะให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างธรรมชาติ การถ่ายทอดกำลังที่สมบูรณ์แบบนั้น ...จะต้องถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์โดยเบ็ดเสร็จ ซึ่งคำกล่าวนี้ อาจจะฟังดูขัดกับความเชื่อของสาวกเกียร์ธรรมดาอยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม Reggiani ก็ยังยืนกรานว่า เกียร์ที่เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง คือเกียร์ออโต้ ...ไม่ใช่เกียร์ธรรมดา

ในปัจจุบัน รถซุปเปอร์คาร์ของแลมโบกินีนั้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่มีทอร์คมหาศาล มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำเอาเครื่องยนต์อันเกรี้ยวกราดนี้ มาประกบกับเกียร์ธรรมดา เพราะถ้าหากว่าเมื่อใดที่คนขับไม่ชำนาญการขับเกียร์แมนนวลแล้ว การเลียคลัทช์แบบย้ำๆ จะส่งผลให้แผ่นคลัทช์ไหม้และเสื่อมสภาพในระยะทางไม่กี่ร้อยกิโลเมตรเพียงเท่านั้น

Ferrari LaFerrari (คลัทช์คู่อัตโนมัติ 7-สปีด)

นอกจากกระทิงดุอาติเลียนแล้ว ม้าลำพองสัญชาติอิตาเลียนอย่าง Ferrari ก็มีความเห็นที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกัน และได้ประกาศยกเลิกไลน์การผลิตเกียร์แมนนวลสำหรับรถทุกรุ่นภายใต้สังกัด Ferrari เป็นที่เรียบร้อย โดยให้เหตุผลว่า ...ถึงแม้ว่าเกียร์แมนนวลจะมีความแม่นยำและรวดเร็วเพียงแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจเทียบกับความเร็วการชิฟท์เกียร์แบบสายฟ้าแลบของเกียร์คลัทช์คู่ได้อย่างแน่นอน

บทความแนะนำ -DCT ปะทะ CVT : คลัทช์คู่ในตำนาน [VS] สายพานมหัศจรรย์

Porsche 911 GT3 RS

ค่ายรถยนต์สปอร์ตจากเยอรมันอย่าง Porsche ก็ไม่แคล้ว... พยักหน้าเห็นด้วยโดยทันที และได้ตัดตอนสปอร์ตในตำนาน 911 GT3 ที่มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดาเป็นที่เรียบร้อย (โดยมีเฉพาะ 911 R เพียงรุ่นเดียว ที่มาพร้อมกับเกียร์แมนนวล) สำหรับ 991 GT3 รุ่นที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันนั้น มีเฉพาะเกียร์คลัทช์คู่ PDK เพียงเท่านั้น

เพราะฉะนั้น คำกล่าวของ Reggiani และการประกาศของ Ferrari รวมถึงแถลงการณ์ของ Porsche ก็ถือเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ในยุคปัจจุบันนี้ เกียร์อัตโนมัติได้รับการพัฒนาจนกระทั่งมี สมรรถนะ ที่เหนือกว่าเกียร์ธรรมดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ... มันช่างเป็นความจริงที่น่าเจ็บปวด สำหรับสาวกเกียร์แมนนวลทั่วโลก...

วิดีโอ เปรียบอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ของ BMW M135i

บนซ้าย = เกียร์แมนนวล, ล่างขวา = เกียร์ออโต้ 8-สปีด

อัตราเร่ง 0-100 เกียร์แมนนวล = 10.75

อัตราเร่ง 0-100 เกียร์ออโต้ = 10.86

เหตุผลข้อที่ 3 : เกียร์ออโต้...สร้างมลพิษน้อยกว่า

และเหตุผลข้อนี้ ก็คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้รถยนต์หลายรุ่น พากันบอกลาเกียร์ธรรมดาไปอย่างน่าเสียดาย ในรถยนต์เกียร์ออโต้นั้น เครื่องยนต์และเกียร์จะถูกเซ็ทอัพเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสัมพันธ์และสอดคล้อง ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณไอเสีย เพื่อให้ผ่านมาตรฐานมลพิษที่เข้มงวดขึ้นทุกปีๆ

Porsche อ้างว่า เกียร์คลัทช์คู่ PDK สามารถลดมลพิษได้มากถึง 15%

สำหรับเกียร์ออโต้สมัยใหม่นั้น ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับ โหมดขับใช้งานปกติ (D-Mode) กับ โหมดสปอร์ต (S-Mode) ในโหมดใช้งานแบบปกตินั้น ซอฟแวร์ของเครื่องยนต์และเกียร์ จะได้รับการเซ็ทอัพมาเพื่อการส่งกำลังให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในโหมดนี้เครื่องยนต์จะบริโภคน้ำมันน้อยและปล่อยไอเสียน้อย แต่ทว่าในโหมดสปอร์ตนั้น จะเน้นไปที่การสร้างกำลังให้ได้มากที่สุด อัตราทดของเกียร์จะถูกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และรอบเครื่องยนต์ที่ใช้ในการเปลี่ยนเกียร์ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันครับ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นลูกเล่นของเกียร์ออโต้ ที่เกียร์แมนนวลไม่สามารถเลียนแบบได้โดยเด็ดขาด

เหตุผลข้อที่ 4 : เกียร์ออโต้ขับง่ายกว่า

เหตุผลข้อนี้ เห็นได้ชัดเจนที่สุดในกลุ่มผู้ใช้รถที่เป็นสุภาพสตรี แน่นอนว่า การควบคุมเพียงคันเร่งและเบรกของรถยนต์เกียร์ออโต้นั้น เป็นอะไรที่ง่ายกว่า การขับรถเกียร์แมนนวลเป็นไหนๆ

สำหรับเกียร์แมนนวลแล้ว นอกจากจะต้องเปลี่ยนเกียร์เองโดยใช้มือซ้ายแล้ว เท้าซ้ายก็ต้องคอยเหยียบคลัทช์เพื่อตัด-ต่อกำลังจากเครื่องยนต์อีกด้วย และการควบคุมที่ยุ่งยากของเกียร์แมนนวลนี้เอง ทำให้มันถูกมองว่าเป็นระบบเกียร์ที่ล้าหลัง

ใช่แล้วครับ สำหรับเกียร์แมนนวลแล้ว การที่คนขับจะต้องพะวงกับการเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคลัทช์อยู่ตลอดเวลา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่หัดขับทั้งหลาย) ทำให้ความสามารถในการสังเกตสิ่งรอบข้างลดลงอย่างมาก ...เพราะเหตุนี้ เกียร์แมนนวลจึงถูกมองในแง่ลบในเรื่องของ ความปลอดภัย...

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงและกลุ่มรถยนต์เกรดพรีเมี่ยมนั้น ได้เบนเข็มทิศไปทาง เกียร์อัตโนมัติ อย่างไม่มีวันหวนกลับ เหลือไว้เพียงกลุ่มรถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก (รวมไปถึงรถบรรทุกขนาดเล็ก) ที่เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ยังให้ความสำคัญกับต้นทุนการผลิตเป็นอันดับต้นๆ เรียกได้ว่ากะจะลดต้นทุนให้มากที่สุด เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อน้อยที่สุด ...เพราะฉะนั้นแล้ว เกียร์แมนนวลจึงถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มทุนที่สุดสำหรับรถยนต์ประเภทนี้

ความจริงแล้ว เกียร์ธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันนั้น มันไม่ได้สูญหายไปไหนหรอกครับ หากแต่ได้กลายพันธุ์เป็น เกียร์ธรรมดา-กึ่งอัตโนมัติ (Semi-automatic) อย่างเช่นเกียร์คลัทช์คู่หรือเกียร์ซีเควนเชียลนั่นเองครับ ซึ่งเกียร์เหล่านี้ สามารถดึงเอาข้อได้เปรียบของเกียร์แมนนวล และจุดเด่นของเกียร์ออโต้มาใช้ได้อย่างชาญฉลาด นั่นทำให้สาวกเกียร์แมนนวลหลายต่อหลายคนได้เปลี่ยนลัทธิไปนับถือเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่อย่าง DCT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว นอกจากนั้น การเปลี่ยนไปใช้ DCT ยังมีผลพลอยได้ในเรื่องของความสะดวกสบาย ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการใช้งานในขีวิตประจำวันที่การจราจรสุดสนจะติดขัด

บทความแนะนำ -Sequential Gearbox : เกียร์ธรรมดา...ที่ไม่ธรรมดา

เอาล่ะครับ สำหรับบทความนี้ ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับบทความต่อไปนั้น ผมจะพาไปเจาะลึกเรื่องอะไร วิเคราะห์รถรุ่นไหน ท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้ที่ แฟนเพจ Joh's Autolifeได้เลยครับผม

เรียบเรียงโดยJoh BURUT

สนับสนุนบทความโดยMotys Oil Thailand

Get Connected | ติดต่อกับพวกเราได้ที่...